Three Towers Shrine Overture

โหมโรงพระปรางค์สามยอด (Three Towers Shrine Overture / Phra Prang Sam Yot Overture) เป็นบทประพันธ์สำหรับวงดุริยางค์เครื่องลมที่ถ่ายทอดถึงบรรยากาศความสวยงาม ความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ และความครึกครื้น สนุกสนานของจังหวัดลพบุรี โดยในบทประพันธ์นี้ได้หยิบยกนำแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีที่สำคัญอย่างพระปรางค์สามยอดมาใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงนำทำนองเพลงที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดลพบุรีมาเป็นองค์ประกอบในการประพันธ์ ได้แก่ ระบำลพบุรี ประพันธ์โดยครู มนตรี ตราโมท และ ทำนองเพลงที่เกี่ยวข้องกับ “ลิง” สัตว์ตัวน้อยคู่เมืองลพบุรีในทำนองเพลง ลิงกับเสือ (หรือรู้จักโดยทั่วไปในชื่อว่า “ค้างคาวกินกล้วย”)

คีตลักษณ์ที่ปรากฏในบทเพลงโหมโรงพระปรางค์สามยอดมีลักษณะเป็น บทนำ (Introduction) – เร็ว (Allegro) – ช้า (Andante) – เร็ว (Allegro) โดยบทเพลงเริ่มต้นด้วยโมทีฟพระปรางค์สามยอดด้วยโน้ตสามตัว (แทนพระปรางค์สามยอด) ซึ่งจะปรากฏในช่วงต่างๆ ของบทเพลง ในช่วงบทนำ (Introduction) นี้เป็นการสร้างบรรยากาศความกว้างขวาง และความเก่าแก่ของสถานที่ ผู้ฟังจะเริ่มได้ยินส่วนหนึ่งจากทำนองเพลงระบำลพบุรี เพื่อเติมชีวิตชีวาเข้าไปในบรรยากาศ ก่อนจะนำเข้าสู่แฟนแฟร์ (Fanfare) ซึ่งพัฒนาต่อมาจากทำนองเพลงระบำลพบุรี และตรงเข้าสู่ท่อนเร็วในบทเพลงซึ่งเป็นทำนองที่ประพันธ์ขึ้นมาใหม่

ในท่อนเร็วได้สลับไปมาระหว่างทำนองที่ประพันธ์ขึ้นมาใหม่ในรูปแบบดนตรีสากล และ ทำนองที่ให้กลิ่นอายความเป็นไทย ในช่วงท้ายของท่อนเร็วได้มีการนำทำนองเพลง “ลิงกับเสือ” มาใช้ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศของความสนุกสนาน งานเทศกาล ความครึกครื้น ก่อนจะนำเข้าสู่ท่อนช้าซึ่งเปรียบดุจดั่งบรรยากาศยามค่ำคืนที่สวยงาม

ในช่วงนำจากท่อนช้าไปเร็ว (Transition) ผู้ประพันธ์ได้นำทำนองที่เคยปรากฏในบทเพลงมาใช้ในรูปแบบต่างๆ ผ่านเทคนิคในการประพันธ์เพลงที่หลากหลาย เช่น การพัฒนาทำนองแบบฟิวก์ (Fugue) และ การแปลงทำนอง (Thematic Transformation) และเข้าสู่ท่อนจบซึ่งประกอบด้วยทำนองจากท่อนเร็วในตอนต้น และปิดท้ายด้วยทำนองที่ถูกนำเสนออีกครั้ง ก่อนเข้าสู่ช่วงบทสรุปบทเพลง ปิดท้ายบทเพลงด้วยความยิ่งใหญ่

Three Towers Shrine Overture was commissioned by Apiwat Suriyos and TRU Symphonic Band (Lopburi, Thailand)