หลังจากการพิจารณาผลงานทั้งหมด 29 บทเพลง ทาง Thai Wind Composers และ Valaya Alongkorn Music Competition มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการประกาศผลงานที่ได้รับเลือกให้เป็นบทเพลงบังคับสำหรับการประกวด Valaya Alongkorn Music Competition (VAMC) 2025 ดังต่อไปนี้

Wind Ensemble (วงเล็ก) ระดับมัธยม

Aurora Express

ประพันธ์โดย จารุกิตติ์ เต่าแก้ว (Jarukit Taokaew)

ประพันธ์สำหรับ Flexible Ensemble (5–7 parts) + Percussion (ไม่เกิน 4 แนว)

ความยาว 4–5 นาที

ความยากไม่เกิน Grade 3

Wind Ensemble (วงเล็ก) ระดับ Open

Spirit Realm

ประพันธ์โดย จารุกิตติ์ เต่าแก้ว (Jarukit Taokaew)

ประพันธ์สำหรับ Flexible Ensemble (5–7 parts) + Percussion (ไม่เกิน 4 แนว)

ความยาว 5–7 นาที

ไม่จำกัดความยาก

Wind Band (วงใหญ่) ระดับมัธยม

The Dream Tales

ประพันธ์โดย ธนัช มงคลฤกษ์ (Thanat Mongkolrerks)

ประพันธ์สำหรับ Full Band + Percussion (ไม่เกิน 5 แนว)

ความยาว 4–5 นาที

ความยาก Grade 3–4

Wind Band (วงใหญ่) ระดับ Open

ยันต์ (ท่อนที่ 5 ห้าแถว)

ประพันธ์โดย พิรุณ เจ๊ะวงศ์ (Pirun Jehwong)

ประพันธ์สำหรับ Full Band + Percussion (ไม่เกิน 5 แนว)

ความยาว 5–7 นาที 

ไม่จำกัดความยาก

Jury's Mention (บทเพลงแนะนำเพิ่มเติมจากกรรมการ)

Wind Ensemble (วงเล็ก) ระดับมัธยม

The Dream Tales
โดย ธนัช มงคลฤกษ์ (Thanat Mongkolrerks)

Wind Ensemble (วงเล็ก) ระดับ Open

The Eternal King in the Sky
โดย ธันย์ศรุต อริยสุขอนันต์ วงศ์วิทูรสมุทร (Thunsarut Ariyasuk A-nan Wongwitoonsamut)

Galaxy
โดย ปวิธ จันทนขจรฟุ้ง (Pawit Chantanakajohnfung)

Wind Band (วงใหญ่) ระดับมัธยม

Onson
โดย ธนธรณ์ ดิษฐ์ขุนทด (Thanatorn Dickhuntod)

Battle of Ayutthaya
โดย จตุพล รัตนพงษ์วณิช (Jatuphon Rattanapongvanich)

Wind Band (วงใหญ่) ระดับ Open

First Pagoda
โดย อติรัณณ์ ศรีชาดา (Atiran Srichada)

Suvarnabhumi Poem
โดย ธนัช มงคลฤกษ์ (Thanat Mongkolrerks)

  • ผู้ส่งผลงานประพันธ์ระดับมัธยมต้องมีอายุไม่เกิน 25 ปี (ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2568) หรือ หากมีอายุมากกว่าเกณฑ์ต้องเป็นผู้ที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย
  • ผู้ส่งผลงานประพันธ์ระดับ Open ไม่จำกัดอายุผู้เข้าประกวด
  • ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัคร
  • ระยะเวลาในการประพันธ์ไม่เกิน 4 ปีที่ผ่านมา
  • 1 คนส่งเพลงได้ 1 เพลงต่อรายการ (ระดับ)
  • ไม่รับงานกลุ่ม
  • ส่งบทเพลงในรูปแบบสกอร์ PDF เท่านั้น
  • ไม่อนุญาตให้มีการใช้อิเล็กทรอนิค และ เครื่องดนตรีใช้ไฟฟ้าในบทเพลง
  • สามารถใช้เครื่องดนตรีได้ตามรายชื่อเครื่องดนตรีที่กำหนดเท่านั้น
  • คณะทำงานที่เกี่ยวข้องกับ Thai Wind Composers ไม่สามารถเข้าร่วมการประกวดได้
  1. เพลงที่ชนะเลิศได้เป็นเพลงบังคับในการประกวด โดยเงินรางวัลจะได้รับดังต่อไปนี้
    1. Wind Ensemble (วงเล็ก) ระดับมัธยม ได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท
    2. Wind Ensemble (วงเล็ก) ระดับ Open ได้รับเงินรางวัล 15,000 บาท
    3. Wind Band (วงใหญ่) ระดับมัธยม ได้รับเงินรางวัล 20,000 บาท
    4. Wind Band (วงใหญ่) ระดับ Open ได้รับเงินรางวัล 25,000 บาท
  1. เพลงทั้งหมดที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ จะได้รับสิทธิในการนำชื่อบทเพลงไปไว้บนหน้าเว็บไซต์พิเศษภายในเว็บไซต์ Thai Wind Composers (thaiwindcomposers.com)
  2. ผู้ชนะเลิศจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลในการประกวด Valaya Alongkorn Music Competition 2025 โดยเงินรางวัลจะถูกส่งมอบทั้งหมดภายในเดือนธันวาคม 2568 ซึ่งทางผู้จัดการประกวดจะเป็นผู้ดำเนินการมอบเงินรางวัลให้แก่ผู้ชนะต่อไป
  1. Flexible Ensemble คือ ประเภทบทเพลงที่สามารถปรับผสมเครื่องดนตรีได้อย่างอิสระ แบ่งแนวเสียตามช่วงเสียงเสียงสูง กลาง ต่ำออกเป็นทั้งหมด 5–7 แนวเสียง (Part) โดยในแต่ละแนวจะกำหนดเครื่องดนตรีตามช่วงเสียง (เช่น Part 1 – Flute, Oboe, Clarinet in Bb, Trumpet in Bb) และ ทุกเครื่องดนตรีในแต่ละแนวจะต้องบรรเลงโน้ตเดียวกัน (อาจมีการปรับ Octave ได้ตามความเหมาะสม)
  2. เกณฑ์ความยากให้พิจารณาเทียบจากเกณฑ์ของ American Band College Music Grading Chart: https://www.bandworld.org/pdfs/gradingchart.pdf
  3. Percussion 1 แนวต่อ 1 คน
    — Flexible Ensemble กำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 4 แนว ส่วน และ Wind Band กำหนดให้ใช้ได้ไม่เกิน 5 แนว
    — กล่าวคือเป็นบทเพลงที่มีผู้เล่น Percussion ไม่เกินจำนวนแนวเสียง (รวม Timpani แล้ว) ผู้เล่น 1 คนสามารถสลับเล่นได้หลายเครื่องดนตรี (ยกเว้น Timpani—โดยส่วนใหญ่แล้ว Timpani จะประจำที่เครื่องของตน และ ไม่สลับไปเล่นเครื่องอื่น)
  1. เจ้าของลิขสิทธิ์ของบทเพลงจะเป็นของผู้ประพันธ์ และ ผู้ประพันธ์อนุญาตให้สิทธิ์ใช้งานสำหรับการประกวด VAMC 2025
  2. วงที่เข้าร่วมการประกวดจะได้รับสิทธิ์การใช้งานทั้งสำหรับการประกวด VAMC 2025 และ สำหรับใช้ภายในวงของตนเองเท่านั้น (สามารถใช้ในการประกวดอื่นๆ ได้) ภายในโน้ตเพลงทุกฉบับจะมีการระบุข้อมูลลิขสิทธิ์แสดงความเป็นเจ้าของสิทธิ์การใช้งานสำหรับวงนั้นๆ
  3. การนำโน้ตเพลงที่ได้รับไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ (“ผู้ประพันธ์”) มีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537
  4. ในกรณีที่วงผู้เข้าการประกวดมีความจำเป็นต้องดัดแปลงบทประพันธ์ ให้ติดต่อขออนุญาตจากผู้ประพันธ์โดยตรง การอนุญาตให้ดัดแปลง และ/หรือ การเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมให้เป็นดุลยพินิจของผู้ประพันธ์
  5. ผู้ที่ชนะการประกวดประพันธ์เพลงต้องทำงานร่วมกับทาง Thai Wind Composers ในการระบุข้อมูลลิขสิทธิ์ และ จัดเตรียมโน้ตเพลงสำหรับวงที่เข้าร่วมการประกวด

Piccolo (optional)
1 Flute
Oboe (optional)
Bassoon (optional)

Eb Clarinet (optional)
3 Bb Clarinet
Bass Clarinet (optional)

Soprano Saxophone (optional)
Alto Saxophone 1
Alto Saxophone 2 (optional)
Tenor Saxophone
Baritone Saxophone (optional)

3 Trumpet
2 Horn
2 Trombone
Bass Trombone (optional)
Euphonium
Tuba
Double Bass (optional)

Timpani (optional)

Percussion 1–4

*Optional คือ เครื่องเสริมที่มี หรือ ไม่มีก็ได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ประพันธ์เขียนสำหรับเครื่อง Optional จะต้องใส่โน้ตคิว (Cue) ในเครื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็น Optional เช่น หากเขียนให้สำหรับ Oboe Solo จะต้องมีโน้ตคิวสำหรับเครื่องอื่น เช่น Trumpet หรือ Clarinet 1 ด้วย

*ในหนึ่งแนวเสียง ไม่อนุญาตให้มีการแบ่งเป็นแนวย่อย (Divisi) เช่น โน้ต Clarinet 1 จะสามารถมีได้แค่ 1 แนวเท่านั้น

Piccolo (optional)
2 Flute
Oboe (optional)
Bassoon (optional)

Eb Clarinet (optional)
3 Bb Clarinet
Bass Clarinet (optional)

Saxophone Saxophone (optional)
2 Alto Saxophone
Tenor Saxophone
Baritone Saxophone (optional)

3 Trumpet
4 Horn
2 Trombone
Bass Trombone (optional)
Euphonium
Tuba
Double Bass (optional)

Timpani (optional)

Percussion 1–4

*Optional คือ เครื่องเสริมที่มี หรือ ไม่มีก็ได้ อย่างไรก็ตามหากผู้ประพันธ์เขียนสำหรับเครื่อง Optional จะต้องใส่โน้ตคิว (Cue) ในเครื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็น Optional เช่น หากเขียนให้สำหรับ Oboe Solo จะต้องมีโน้ตคิวสำหรับเครื่องอื่น เช่น Trumpet หรือ Clarinet 1 ด้วย

*ในหนึ่งแนวเสียง ไม่อนุญาตให้มีการแบ่งเป็นแนวย่อย (Divisi) เช่น โน้ต Clarinet 1 จะสามารถมีได้แค่ 1 แนวเท่านั้น

Part 1*Piccolo, Flute, Oboe, Eb Clarinet, Bb Clarinet, Soprano Saxophone, Trumpet
Part 2*Flute, Oboe, Bb Clarinet, Trumpet
Part 3*Bb Clarinet, Alto Saxophone, Trumpet, Horn
Part 4Bb Clarinet, Alto Saxophone, Horn
Part 5*Bassoon, Alto Clarinet, Tenor Saxophone, Horn, Trombone, Euphonium
Part 6Bassoon, Tenor Saxophone, Trombone, Euphonium
Part 7*Bassoon, Bass Clarinet, Baritone Saxophone, Tuba, Double Bass

*พาร์ทที่บังคับต้องมี

คณะกรรมการ (ระดับ Open)

Asst. Prof. Jinnawat Mansap

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จิณณวัตร มั่นทรัพย์
จิณณวัตร มั่นทรัพย์ เป็นนักประพันธ์เพลงและอาจารย์ชาวไทยที่มีชื่อเสียงในวงการดนตรี โดยเฉพาะในด้านการประพันธ์เพลงสำหรับวงดุริยางค์เครื่องลม เขาได้รับการยอมรับในด้านการนำเสนอแนวดนตรีที่ผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ไทยและแนวทางดนตรีตะวันตกอย่างลงตัว
การศึกษา: จิณณวัตรเริ่มต้นเส้นทางดนตรีในวงโยธวาทิตของโรงเรียนหอวัง โดยเล่นในตำแหน่งยูโฟเนียมและทูบา ภายใต้การควบคุมของอาจารย์ประยุทธ ชาญอักษร เขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญาตรีด้านดนตรีศึกษา จากคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และได้ศึกษาต่อในระดับปริญญาโทด้านการประพันธ์เพลง จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยศึกษาการประพันธ์เพลงกับ ศ.ดร.ฤรงค์ฤทธิ์ ธรรมบุตร
อาชีพ: ปัจจุบัน จิณณวัตรดำรงตำแหน่งเป็น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านการประพันธ์เพลง ที่ภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขามีผลงานการแต่งเพลงและเรียบเรียงดนตรีสำหรับวงดุริยางค์หลายวงในประเทศไทย รวมถึงในประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และฮ่องกง
ผลงาน:
ด้านการสอน: จิณณวัตรเคยเป็นหนึ่งในทีมผู้ฝึกสอนวงดนตรีเยาวชนไซมิท (Siamyth Drum and Bugle Corps) ตั้งแต่ปี 2003 ถึง 2014 และตั้งแต่ปี 2019 เขาเป็นผู้ฝึกสอนและผู้อำนวยเพลงให้กับวง Thai Youth Wind
ด้านการแสดงดนตรี: เขาร่วมแสดงและเป็นสมาชิกของวงดนตรีหลายวง เช่น Brilliant Sound Brass Quintet, Brass Berry, Front Bell Brass Quintet, CU Symphony Orchestra, Thai Youth Orchestra, และ Tenrikyo Aimachi Marching Band
ด้านการอำนวยเพลง: จิณณวัตรได้เป็นผู้อำนวยเพลงให้กับวง Kasetsart Winds, Nontri Wind Orchestra (WMC 2017), และ Bua Prakieo Wind Ensemble
ด้านการตัดสิน: จิณณวัตรได้รับเชิญให้เป็นคณะกรรมการตัดสินในการประกวดวงโยธวาทิตชิงถ้วยพระราชทานฯ จัดโดยกรมพลศึกษาตั้งแต่ปี 2012 เขายังเป็นคณะกรรมการตัดสินในการประกวดดนตรีของสมาคมมาร์ชิ่งอาร์ทสากล และได้รับเชิญเป็นคณะกรรมการตัดสินผลงาน Young Artist Award รอบคัดเลือกสาขาการประพันธ์เพลงที่จัดโดยมูลนิธิ SCG ในปี 2023

ผลงานเพลงของจิณณวัตรมักถูกนำไปใช้เป็นบทเพลงบังคับหรือแสดงในงานประกวดและเทศกาลดนตรีต่าง ๆ ซึ่งทำให้เขาได้รับการยอมรับในวงการดนตรีเครื่องลมในประเทศไทย เขามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาดนตรีสำหรับวงดุริยางค์เครื่องลม โดยเน้นความสำคัญของการผสมผสานดนตรีแบบไทยเข้ากับแนวดนตรีสมัยใหม่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จิณณวัตร มั่นทรัพย์ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเรียนและนักดนตรีรุ่นใหม่ ผ่านการสอนและผลงานการประพันธ์ของเขาในวงการดนตรีไทย

Asst. Prof. Kitti Kuremanee

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กิตติ เครือมณี อาจารย์ประจำภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีประวัติการศึกษาและผลงานที่โดดเด่นหลากหลาย ท่านสำเร็จการศึกษาสูงสุดในระดับ ประกาศนียบัตรขั้นสูง Postgraduate Composition จาก Artesis University Antwerp ประเทศเบลเยียม โดยมีความเชี่ยวชาญในการประพันธ์เพลงร่วมสมัยที่ผสานแนวคิดคลาสสิกร่วมสมัยเข้ากับเอกลักษณ์ดนตรีไทยในรูปแบบสากล การสร้างสรรค์ผลงานของท่านมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ผ่านการแสดงดนตรี ให้คนรุ่นใหม่คุ้นเคยและตระหนักถึงศักยภาพในการผสมผสานดนตรีจากสองวัฒนธรรม
ท่านมีประสบการณ์ทางดนตรีที่หลากหลาย อาทิ การเป็นสมาชิกวงดุริยางค์ซิมโฟนีออเคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสมาชิกสมทบวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ ในตำแหน่งเฟรนช์ฮอร์น นอกจากนี้ยังเป็นสมาชิกและหัวหน้าวงดนตรีสโมสรดนตรีสากลแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในตำแหน่งกลองชุด รวมถึงเป็นสมาชิก ผู้ประพันธ์เพลง และผู้เรียบเรียงเสียงประสานของวงดนตรีลายไทยออเคสตรา และมีบทบาทสำคัญในฐานะนักดนตรี ผู้ประพันธ์เพลง และผู้เรียบเรียงเสียงประสานให้กับโรงละครรัชดาลัยเธียเตอร์
จากความสามารถและผลงานที่ประจักษ์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กิตติ เครือมณี ได้รับรางวัลและเกียรติคุณมากมาย โดยเฉพาะในสาขาดนตรีประกอบภาพยนตร์ อาทิ รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 16 สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “13 เกมสยอง” รวมถึง รางวัลสตาร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ อวอร์ด ปี 2550 และ รางวัลไนน์ เอนเตอร์เทนเมนท์ อวอร์ด ปี 2550 ในสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง “รักแห่งสยาม” ซึ่งยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอเชียน ฟิล์ม อวอร์ด ครั้งที่ 2 ปี 2550 และรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 16 ในสาขาเดียวกัน นอกจากนี้ท่านยังได้รับ รางวัลสตาร์พิคส์ ไทย ฟิล์ม อวอร์ด ครั้งที่ 10 ประจำปี 2555 สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง “โฮม ความรัก ความสุข ความทรงจำ” และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลชมรมวิจารณ์บันเทิง ปี 2555 และรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ครั้งที่ 22 ในสาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องเดียวกันอีกด้วย

Viskamol Chaiwanichsiri

วิษณ์กมล ชัยวานิชศิริ เป็นนักประพันธ์เพลง วาทยกร และ นักดนตรีศึกษาชาวไทยที่มีผลงานดนตรีจากการผสมผสานเสียงดนตรีแบบไทยเข้ากับสไตล์ร่วมสมัยที่หลากหลาย ผลงานของเขาได้นำออกแสดงจากทั้งในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ทำให้เขาเป็นหนึ่งในนักประพันธ์รุ่นใหม่ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ บทประพันธ์ของวิษณ์กมลได้รับการบรรเลงโดยวงดนตรีชั้นนำ เช่น Thailand Philharmonic Orchestra, Tacet(i) Ensemble, Meiden High School Symphonic Band (Japan), Georgie State University Symphonic Wind Ensemble (Atlanta, GA) รวมถึงได้ถูกนำไปแสดงในเทศกาลระดับนานาชาติ เช่น Asian Saxophone Congress (ประเทศจีน, 2024), World Saxophone Congress (โครเอเชีย, 2018; ฝรั่งเศส, 2015), International Trumpet Guild (สหรัฐอเมริกา, 2023)

วิษณ์กมลเป็นผู้ก่อตั้ง thaiwindcomposers.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ และ โครงการเพื่อสนับสนุนนักประพันธ์เพลงดุริยางค์เครื่องลมในประเทศไทย ผลงานวิษณ์กมลได้รับรางวัลระดับนานาชาติได้แก่ ARTZenter Institute Emerging Composer Completion Grants (2025) James E. Croft Grant for Young and Emerging Wind Band Composer (2024) และชนะการประกวดประพันธ์เพลงของ Austin Symphonic Band’s third annual Young Composers’ Contest (2024) 

ปัจจุบัน วิษณ์กมล ชัยวานิชศิริ กำลังศึกษาปริญญาเอกสาขาการประพันธ์ดนตรี ณ University of Missouri – Kansas City ณ เมือง Kansas City รัฐ Missouri ประเทศสหรัฐอเมริกา

Website: viskamol.com

คณะกรรมการ (ระดับมัธยม)

Pimpanit Karoonyavanich

Pimpanit Karoonyavanich was born in Bangkok, Thailand in 1988. She started her first piano lesson at

the age of eight and joined her school’s Choir at the age of eleven. Since then until high school graduation, she had shown great interests in music by engaging in singing activities, playing accompaniments, giving concerts, and joining choir competitions in Asia and Europe.

Having explored the world of music during her high school years, she decided to pursue her undergraduate degree in Piano Performance at Kasetsart University, Bangkok and graduated in 2010 with 2nd class Honour. She also achieved the 3rd highest mark in “Performer’s Certificate Solo Piano” from “Trinity Awards Thailand 2008”.

In 2011, she began her music education in Belgium with Prof. Wim Henderickx at The Royal Conservatory of Antwerpen. The following year, she began her lessons with Prof. Jan Van der Roost and Prof. Luc Van Hove at Lemmensinstituut (LUCA School of Arts) until she graduated her master degree in Music Composition with Honour in 2015.(Cum Laude)

During her years as a composition student, Pimpanit’s interests in conducting was evoked by Prof. Jan Van der Roost. Consequently, she decided to pursue her undergraduate degree in Conducting taught by Prof. Ivan Meylemans at Lemmensinstituut (LUCA School of Arts) and graduated in 2016.

Pimpanit was assigned to write the test piece for “The Dutch National Brass Band Championships 2017” – 3de Division. This work “A Journey to the Bermuda Triangle” was also used as the test piece for The Belgian National Brass Band Championships 2017, The Danish National Brass Band Championships 2023 and The North American Brass Band Association Championship 2025 – Youth Championship. Because of this composition work, she was nominated by 4barsrest (4BR Awards) as 1 of the 10 “2017 Newcomers of the Year”.

In 2022, her work “The Ocean Beast” is received an honourable mention from the jury in “Vlamo Composition Contest 2022”.

She was also assigned to write the test piece for “Vlamo Open Harmoniekampioenschap 2023” (Vlamo Open Wind Orchestra Championships 2023)

Her composition works for concert band, brass band and fanfare band are published by the music publisher “BVT Music GCV” and have been performed internationally in countries such as Thailand, Belgium, Russia, United States, Germany, Italy, Denmark, Netherland, Lithuania, Japan, England and Wales.

At present she gives piano lesson, piano accompaniment lesson and composition lesson for wind orchestra, brass band and fanfare band at music academy MA’GO in Antwerpen.

Pimpanit is also an amateur alto hornist in the Koninklijk Fanfare De Trouwe Vrienden Mijlstraat in Duffel Belgium, where she becomes their “in-house composer”.

Rung-radis Chanchampa

รุ่งรดิศ เริ่มศึกษาการเรียบเรียงเสียงประสานสำหรับวงมาร์ชชิ่งแบนด์ กับ อ.อชิรวิภูย์ ศรีอำไพ  (ผู้ฝึกสอนวงโยธวาทิตโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต) จากนั้นได้ศึกษาต่อกับนักเรียบเรียงและนักแต่งเพลงที่มีชื่อเสียงทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ 

รุ่งรดิศยังได้มีโอกาสศึกษาด้านการประพันธ์เพลงกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายแขนง เช่น  วงคอนเสิร์ตแบนด์, วงขับร้องประสานเสียง, ดนตรีประกอบภาพยนตร์, ดนตรีแจ๊ส, และดนตรีในศตวรรษที่ 20  

รุ่งรดิศได้เรียบเรียงและประพันธ์เพลงให้กับวงมาร์ชชิ่งแบนด์และวงคอนเสิร์ตแบนด์ทั้งในไทย และต่างประเทศจำนวนหลายวง 

ปัจจุบันรุ่งรดิศเป็นผู้ฝึกสอน, ผู้เรียบเรียงและประพันธ์เพลงให้กับวงโยธวาทิตโรงเรียนวชิรธรรมสาธิต และเป็นผู้ฝึกสอนกลุ่มเครื่องดนตรียูโฟเนียม, ผู้ช่วยผู้อำนวยเพลง, ผู้เรียบเรียงและประพันธ์เพลงให้กับ วงดุริยางค์เครื่องลมเยาวชนไทย และเป็นนักเรียบเรียงและประพันธ์เพลงอิสระ 

Asst. Prof. Adiwach Panapongpaisarn

ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิวัชร์ พนาพงศ์ไพศาล ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำโปรแกรมวิชาวิชาศิลปกรรมศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และเป็นผู้อำนวยเพลงวง CRRU Brass Project ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาทักษะการแสดงดนตรีของนักเรียนในขณะเดียวกันก็สร้างวินัยและความรับผิดชอบที่ดี

ผู้ช่วยศาสตราจารย์อดิวัชร์ พนาพงศ์ไพศาล สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาวิชาดนตรีตะวันตกจากภาควิชาดนตรี คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสำเร็จการระดับปริญญาโทสาขาดนตรี จากวิทยาลัยดนตรี มหาวิทยาลัยรังสิต เขาศึกษาทรอมโบนกับ Dr. Sean scot reed, อรุณกร ชัยสุบรรณกนก, สิทธิชัย อ่องสะอาด และสรพจน์ วรแสง และได้มาสเตอร์คลาสร่วมกับ Eric Lee, Mayumi Shimizu, Ronald Barron, Branimir Slokar, Dr. Tom Branley, Dr. Denson Paul Pollard และ Dirk Amrein.

อดิวัชร์ได้มีโอกาสศึกษาการอำนวยเพลงจาก ดร.นิพัต กาญจนะหุต ดร.วานิช โปตะวานิช และสุรพล ธัญญวิบูลย์ อีกทั้งได้เรียนมาสเตอร์คลาสกับ Prof. Dennis W. Fisher, Prof. Eugene M. Corporon, Dr. Andrew Trachsel, Dr. Amy Woody, Jonathan Mann และได้เข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการมากมาย เช่น Thailand band director seminar 2016, Japan band clinic 2019, Midwest international band and orchestra conference 2022, Texas Bandmaster Association 2023 and UNT Conductor Collegium 2024.  

เขาได้รับเชิญเป็นวิทยากรมากมายทั้งในภาคเหนือและภาคอื่น ๆ ของประเทศไทยเพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการบรรเลงวงดุริยางค์เครื่องลมของนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย 

en_USEnglish